จากกรณีคดีสะเทือนขวัญคนร้ายใช้อาวุธปืนสั้นติดที่เก็บเสียง บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี ตำบล กกโก อำเภอ เมือง จังหวัด ลพบุรี ยิงพนักงานหญิง ลูกค้าภายในห้าง และเด็กชายวัย 2 ขวบ เสียชีวิตรวม 3 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย เกิดเหตุเมื่อ วันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา
วันที่ 11 มกราคม 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบประเด็นที่เกิดข้อสังเกต เรื่องของการเดินของคนร้ายที่เดินขากะเผลกนั้น เชื่อว่า ไม่น่าจะใช้คนพิการ หรือ คนที่มีปัญหาเรื่องขา เพราะว่าดูจากการกระโดดลงจากเค้าเตอร์ร้านทองนั้น เป็นการกระโดดลงคล้ายผู้ที่ผ่านการฝึกยุทธวิธีที่ทำให้ปลอดภัย ไม่เสียหลัก และพบว่าเท้าข้างขวาไม่ได้สวมถุงเท้า เหมือนเท้าด้านซ้าย
ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปที่วัดศรีธรรมโสภณ ต นิคมสร้างตนเอง อ เมืองลพบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ นางสาว ธิดารัตน์ ทองทิพย์ อายุ 31 ปี พนักงานร้านทองที่เสียชีวิต โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ซึ่งมีเพื่อนร่วมงาน ญาติพี่น้อง และหน่วยงานนำพวกหรีด ร่วมแสดงความเสียใจ
นายชัลวาลย์ มังวงษ์ อายุ 29 ปี สามี นางสาว ธิดารัตน์ เปิดใจว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ครอบครัวยังทำใจต่อการจากไปไม่ได้ ตั้งตัวไม่ทัน เพราะจากไปโดนไม่ทันร่ำลา ยอมรับว่า เป็นการกระทำที่เกิดกว่าเหตุ ป่าเถื่อน โหดเหี้ยม ถูกยิงทั้งที่ไม่ทันตั้งตัว ขณะนั่งดูคลิปวินาทีที่ถูกยิงนัดแรก แฟนสาวล้มลงยังไม่เสียชีวิต แต่โจรใจบาปยิงช้ำอีก 3 นัด จนแน่นิ่ง
แต่ด้วยหัวอกคนเป็นพ่อ ยอมรับว่าทำใจลำบากที่ลูกชายวัย 4 ขวบ ถามหาแม่ทุกวันเนื่องจากคนในครอบครัวยังไม่ตัดสินใจบอก บางช่วงที่ลูกวิ่งเล่นในศาลาพอเห็นรูปแม่ลูกชายก็ร้องไห้หาแม่ ถามว่าในโลงมีอะไร ซึ่งเป็นภาพที่รับไม่ได้ จึงได้แต่เปิดโลงเปล่าที่ไม่มีแม่นอนอยู่ให้ลูกดูเพื่อความสะบายใจ
ส่วนประเด็นเรื่องของปมชู้สาว ตามที่ตำรวจตั้งข้อสังเกตเอาไว้ว่าผู้ตายโดนยิงมากกว่าผู้เสียชีวิตรายอื่น อาจเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัวกับมือยิงหรือไม่นั้น ประเด็นดังกล่าวตนไม่ได้ติดใจหรือสงสัยแต่อย่างใด เพราะในระหว่างที่คบหากันแฟนสาวไม่ได้คบชายอื่นแน่นอน