อีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้รับการติดตามอย่างต่อเนื้อง สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 ม ค 63 สืบเนื่องจากกรณีที่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. เปิดเผยข้อมูลคดีโจรปล้นร้านทอง ที่ห้างดัง จ ลพบุรีว่า ตอนนี้ทีข้อมูลในเชิงลึกพอสมคสร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยตำรวจเข้าใกล้คนร้ายระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งข้อมูลทั้งหมดตรวจสอบตั้งแต่การแต่งกายที่มีลักษณะใช้ของแบรนด์เนม ซึ่งอยู่ในระหว่างตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือของเลียนแบบ
ส่วนอาวุธปืนซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ พบว่าเป็น CZ P 01 Tactical ขนาด 9 มม เป็นปืนที่ทีราคาสูง ติดลำกล้อง ลดเสียงได้ แสดงว่าต้องมีความรู้ โอกาสที่จะเป็นปืนเถื่อนก็เป็นไปได้น้อย ซึ่งปืนดังกล่าวไม่มีเฉพาะในหน่วยงานราชการ ประชาชนทั่วไปที่ชื่นชอบก็สามารถมีได้ แต่เป็นส่วนน้อย เพราะราคาสูง ซึ่งแตกต่างจากคดีการชิงทรัพย์ทั่วไป ที่มักจะใช้ปืนปลอม หรือปืนราคาถูก เชื่อว่าคนร้ายเชี่ยวในการใช้อาวุธปืนสูง ยิงได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งตอนเคลื่อนไหว
โดยมีประเด็นหนึ่งที่ตั้งข้อสังเกต เรื่องของการเดินของคนร้าย ที่เดินขากะเผลกนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะใช้คนพิการ หรือคนที่มีปัญหาเรื่องขา เพราะดูจากการกระโดดลงจากเคาเตอร์ร้านทองนั้น เป็นการกระโดดลงคล้ายผู้ที่ผ่านการฝึกยุทธวิธี ที่ทำให้ปลอดภัย ไม่เสียหลัก ยืนยันว่าตำรวจจะจับตัวคนร้ายได้ถูกคนแน่นอน
สำหรับเส้นทางหลบหนีคนร้ายนั้น ตำรวจทราบเส้นทางอย่างละเอียด เบื้องต้นคนร้ายยังหนีไปไม่ไกล และตำรวจรู้จุดปลายทางของคนร้ายแล้ว อยู่ในตัว จ ลพบุรี เชื่อว่าไม่เกิน 2 3 วันนี้จะสามารถจับกุมตัวได้ ถ้ามีการขัดขืนต่อสู้ก็พร้อมวิสามัญทันที
ทั้งนี้ตามรายงานแจ้งว่า จากการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุพบว่า คนร้ายมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธในการเข้าก่อเหตุ ซึ่งมีไม่กี่หน่วยงานที่มีความชำนาญด้านนี้ อาทิเช่น หน่วยพิเศษของหน่วยงานราชการ หรือภาคเอกชน ที่อยู่ในหน่วยงานเฉพาะ ซึ่งตำรวจได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ดีเอ็นเอ เพื่อไปเทียบเคียงให้กับอัตลักษณ์ของคนร้าย
นอกจากนี้สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถระบุรถและยี่ห้อได้อย่างชัดเจนแล้ว หลังจากนี้จะไล่ตรวจเช็กกล้องวงจรปิดย้อนหลัง เพราะเชื่อได้ว่าคนร้ายได้ขับรถมาดูลาดเลาไม่ต่ำกว่า 1 ครั้ง จากการวิเคราะห์ข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่า คนร้ายเตรียมการมาเป็นอย่างดี โดยปืนที่ใช้คือ CZ ซึ่งไม่สามารถหาได้ง่าย นอกจากนี้จะเป็นหน่วยที่มีการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ทางชุดสืบสวนเชื่อว่าหลังจากก่อเหตุเสร็จสิ้น ถ้าเป็นไปตามยุทธวิธีผู้ก่อเหตุจะต้องทำการเผาเสื้อและทำลายรถจักรยานยนต์ทิ้งทันที