ต่าย อรทัย ซุ่มคุยหนุ่มนอกวงการ

News

ทั้งโซเชียล และ หลายคนทั้งประเทศ ต้องขออณุญาติ บอกได้เต็มปากและปฏิเสธไม่ได้ที่ไม่รู้จักเธอคนนี้ อีกหนึ่งนักร้องสาวที่เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจมหาชนเลยก็ว่าได้ สำหรับ ต่าย อรทัย เจ้าของชื่อ สาวดอกหญ้า ที่แฟนๆ ตั้งให้ ล่าสุดได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ พร้อมโชว์เพลง สิมาฮักหยังตอนนี้ ที่ตอนนี้นี้ยอดวิวพุ่งไปกว่า 150 ล้านวิวแล้ว และคาดว่าน่าจะไปต่อแบบไม่มีแผ่ว งานนี้ สาวต่าย โชว์เสียงหวานสะกดใจทั้งสตู พร้อมเปิดใจพูดถึงเรื่องความรักที่หลายคนอยากรู้ โดยเจ้าตัวก็ยอมแบบตรงๆ ว่า มีคนดูแลหัวใจเป็นหนุ่มนอกวงการ

ถาม ในชีวิตเคยโกรธหรือโมโหบ้างไหม

ต่าย อรทัย เคยค่ะ แต่เราแสดงออกด้วยการนิ่ง เงียบ เราไม่เคยมีปัญหากับคนที่เราทำงานด้วย เราเลือกที่จะเงียบมากกว่า ให้ทุกอย่างมันดีขึ้นแล้วค่อยคุยกัน

ถาม เป็นคนที่เรียบร้อยมาก เวลาอัดเพลงเคยมีอารมณ์แบบโมโหหรืออะไรบ้างไหม เอาใหม่ได้ไหม

ต่าย อรทัย ไม่เลยค่ะ เราก็จะคุยกับอาจารย์ว่าตรงนี้หนูไม่ได้นะคะ ขอเปลี่ยนหรือขยับ ส่วนมากจะคุยให้ลงตัวที่สุด

ถาม ตอนนี้เพลง สิมาฮักหยังตอนนี้ เกือบ 200 ล้านวิวแล้ว

ต่าย อรทัย อยากให้ไปทะลุมากกว่านั้น แต่ก็ค่อยเป็นค่อยไป เพราะศิลปินทำเพลงออกมาเยอะ แต่ก็อยากให้วิวขึ้นไปเรื่อยๆ ค่ะ

ถาม ต่าย อรทัย นับว่าเป็นอีกศิลปินที่มีเพลงฮิตติดหูหลายเพลงมาก จนได้ฉายาสาวดอกหญ้าแห่งวงการลูกทุ่ง ฉายานี้มาได้ยังไง

ต่าย อรทัย น่าจะมาจากเพลงอัลบั้มชุดแรก เป็นชื่อเพลงและอัลบั้มด้วย ดอกหญ้าในป่าปูน คือเพลงได้แต่งขึ้นมาจากในชีวิตของเรา เราก็เป็นสาวต่างจังหวัดคนหนึ่งที่เข้ามาทำงาน ตอนนั้นเรียนจบมัธยมปลายแล้วเราสอบได้ที่ราชภัฏอุบลฯ แต่เราไม่มีเงินสักบาทเลยจะเปิดภาคเรียนแล้ว ตอนนั้นเราเลยตัดสินใจเข้ามาทำงานในเมืองกับคุณแม่ คุณแม่ทำงานที่แคมป์ก่อสร้าง เราก็มาช่วยแม่รับจ้างซักเสื้อผ้าคนงานที่เขาไม่มีเวลา เขาก็มาจ้างเราซัก ห้าบาท สิบบาท ตอนนั้นอยากทั้งเรียน ทั้งทำงาน เพราะอยากหาเงินเพื่อที่จะดูแลทุกคน พอแฟนๆ ได้ฟังเพลงนี้ เขาก็นึกถึงตัวเรา และหลายคนที่สู้ชีวิตเขาก็บอกว่าเพลงนี้เหมือนตัวเขา สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเขาและได้อะไรอย่างๆ หลายจากเพลงนี้ คิดว่าฉายานี้ได้มาจากเพลงนี้

ถาม เป็นคนที่ดูแลทุกคนในครอบครัวและทุกคนรอบตัว แล้วมีคนดูแลหัวใจหรือยัง

ต่าย อรทัย ที่คุยอยู่จริงๆ คือนอกวงการค่ะ เริ่มจากการที่เรามีปัญหาเรื่องงานเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่คิดว่าวันนี้จะคุยกันมาไกลขนาดนี้ เรามีปัญหาเรื่องงานแก้ไขไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนหนึ่งเราต้องแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง และคุยกับผู้ใหญ่ในบริษัทเหมือนกัน แต่เราคิดว่าเราจะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง พี่สาวที่สนิทกันเขาบอกว่าให้เราลองคุย ปรึกษากับเขาดูไหม ก็เริ่มจากการปรึกษา รู้จักกันตรงนั้นแล้วก็เริ่มคุยกันมาเรื่อยๆ จริงๆ ก็สนิทเป็นเพื่อนทำงานด้วย แล้วค่อยขยับมาเป็นเพื่อน ด้วยความที่เขาช่วยแก้ไขเรื่องงานของเราเลยสนิทกันมากขึ้น

ถาม เป็นไปได้ไหมว่าเราจะตกลงปลงใจกับคนนี้

ต่าย อรทัย ยังไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ก็เริ่มจากตัวเขาก่อน เราเริ่มคุยแบบพิเศษไม่ใช่เพื่อน ก็เริ่มจากเขา พอเริ่มจะเปลี่ยนสถานะเป็นแฟน ก็เริ่มจากเขาอีกเหมือนกัน

ถาม แล้วตอนนี้เรียกสถานะว่าแฟนได้หรือยัง

ต่าย อรทัย ยังๆ ค่ะ ยังพูดไม่ได้ขนาดนั้น มานั่งพูดอยู่คนเดียว เดี๋ยววันข้างหน้าก่อน

ถาม ชอบอะไรในตัวเขาคนนี้

ต่าย อรทัย เราคุยด้วยแล้วเราสบายใจ เราอยู่ด้วยแล้วเราปลอดภัย เราเห็นถึงความจริงใจของเขา แล้วอีกอย่างคือ คุยภาษาเดียวกันด้วย คุยกันนิดหน่อยเราก็เข้าใจกันแล้ว เป็นคนทางภาคอีสานเหมือนกัน

ถาม คนนี้ตรงสเปกไหม

ต่าย อรทัย จริงๆ เป็นคนไม่ได้ตั้งสเปกเลย เราคุยแล้วเราปลอดภัย สบายใจ มีอะไรแล้วเข้าใจกันง่ายเท่านั้นก็พอ

ถาม เรื่องของใจยังค่อยเป็นค่อยไป เรียกว่าตอนนี้หัวใจไม่ว่างแล้ว แต่ถ้าวันไหนว่าง ต่าย อรทัย จะไม่อยู่นิ่งต้องไปเดินหาซื้อที่ดินทันที

ต่าย อรทัย ไม่ใช่ค่ะ ไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าก็มี ซื้อที่ก็มีแต่ตอนนี้ พอแล้วค่ะ หยุดแล้วจริงๆ ไปซื้อแถวนครนายกค่ะ ตำบลเขาพระค่ะ จริงๆ ไม่คิดว่าจะมีที่ตรงนี้ด้วยซ้ำนะคะ มีผู้ใหญ่แนะนำ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วย มันมีภูเขามันสวย เรารู้สึกว่าวันหนึ่ง ถ้าเป็นที่ที่เราจะไปอยู่ตอนบั้นปลายชีวิตหรือเปล่า แล้วก็รู้สึกว่าไปมากรุงเทพฯ ได้ง่าย ตอนนี้ปรับที่ดินตรงพื้น แล้วเอาต้นไม้เอาอะไรไปลง แล้วก็ที่อุบลฯ ในเมืองที่บ้านเกิด