ดญ14 ปี บริจาคช่วยต่อ 6 ชีวิต

News

เป็นอีกหนึ่งบุญใหญ่ของผู้ที่บริจาค ร่างกาย เพื่อช่วยเหลืออีกหลายคน ช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลมหาราช อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นายแพทย์สมพร สหจารุพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลมหาราช พร้อมด้วยคณะแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ร่วมกันเคารพร่างของเด็กหญิงระพีพัฒน์ สุขย้อย อายุ 14 ปี ชาวตำบลทุ่งโพธิ์ อำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งได้อยู่ในภาวะสมองหยุดทำงาน

โดยการประกาศของแพทย์อย่างเป็นทางการแพทย์เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ หลังจากที่เด็กหญิงระพีพัฒน์ ได้เกิดเรื่องบาดเจ็บสาหัสจากรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา และได้เข้าสู่ภาวะสมองหยุดทำงานทำให้นางสาวพรรณทิพย์ สุขย้อย อายุ 31 ปีมารดาของเด็กหญิงระพีพัฒน์ ได้ตัดสินใจมอบอวัยวะของบุตรสาวให้กับสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือของผู้อื่นต่อไปท่ามกลางความซาบซึ้งของคณะแพทย์

คณะแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ จากสภากาชาดไทย ได้บินด่วนพร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับการขนย้ายอวัยวะจากกรุงเทพมหานคร มายังโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช และเข้าดูภาวะร่างกายของเด็กหญิงระพีพัฒน์ ภายในห้องไอซียู ของโรงพยาบาลมหาราช ซึ่งพบว่าได้เกิดภาวะความดันลดต่ำลงจึงรีบเคลื่อนย้ายเข้าเข้าห้องผ่าตัดเพื่อทำการนำอวัยวะที่สามารถไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยรายอื่นอย่างเร่งด่วน โดยการเคลื่อนย้ายเด็กหญิงระพีพัฒน์เข้าห้องผ่ๅตัดตลอดทางมีแพทย์และพยาบาลยืนแสดงความเคารพและส่งเด็กหญิงระพีพัฒน์เป็นระยะตลอดทางเข้าสู่ห้องผ่ๅตัด

นางสาวพรรณทิพย์ สุขย้อย อายุ 31 ปี มารดาของเด็กหญิงระพีพัฒน์ เปิดเผยว่า น้องประสบเหตุรถจักรยานยนต์ล้มแล้วศีรษะกระแทกเลื อดออกในสมองกระโหลกร้าว ต้นคอเสียหายไขสันหลังเสียหายหาย แพทย์ยืนยันว่าสมองหยุดทำงานแล้วจึงตัดสินใจบริจาคอวัยวะให้กับคนอื่นจะได้ช่วยต่อลมหายใจให้กับคนอื่น ทราบว่าน้องจะได้ช่วยคนอื่นได้ถึง 6 คนจะได้เป็นกุศลกับน้องในภพหน้า

ขณะที่ นายแพทย์สมพร สหจารุพัฒน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลมหาราช เปิดเผยว่าน้องระพีพัฒน์จะได้เป็นสะพานบุญ ได้บริจาคอวัยวะให้กับผู้อื่นหลายส่วนทั้งตับ ไตสองข้าง ลิ้นหัวใจ สามารถต่อลมหายใจ ได้อีกหลายชีวิตหลายครอบครัวสร้างกุศลอย่างยิ่งใหญ่ การหาอวัยวะนั้นจะเข้าสู่กระบวนการทดสอบสมองว่าสมองหยุดทำงานแล้ว

จะเข้าสู่กระบวนการติดต่อกับสภากาชาดหาทีมในการผ่ๅตัดนำอวัยวะให้กับบุคคลที่เหมาะสมหลังจากที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะนำไปปลูกถ่ายในทันทีทันใด โดยที่กรุงเทพจะมีการเตรียมการทันที ส่วนอวัยวะของน้องระพีพัฒน์ที่ทีมแพทย์นำออกมานั้นจะใช้เวลาราว 5 ชม.จากนั้นจะเดินทางกลับกรุงเทพ โดยคาดว่าจะสามารถช่วยชีวิตผู้ที่รอการปลูกถ่ายอวัยวะอยู่ได้ถึง 6 คน

ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่จากไปด้วย เชื่อว่าน้องต้องได้ไปสู่ภพชาติที่ดีแน่นอน เพราะได้บริจาคร่างกายช่วยชีวิตคนได้อีกถึง 6 ชีวิต