บิณฑ์ และเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ฮีโร่ของคนไทย

News

สำหรับชาวบ้านที่เดือนร้อน สองพี่น้อง บิณฑ์ และเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ คือเทวดาเดินดิน ฮีโร่ของสังคมที่มาช่วยเหลือย ามลำบาก ถึงใครจะมองยังไง แต่สำหรับ บิณฑ์ และเอกพันธ์ ยึดข้อปฏิบัติว่าทำดีไม่มีข้อแม้ และพวกเขาได้ออกมาเล่าถึงที่มาของการเริ่มต้นจิตอาสาผ่านรายการ ต้มยำอมรินทร์ โดยเผยว่าพวกเขาทำมานานมากกว่า 30 ปีแล้ว และที่ทำอย่างต่อเนื่องมาตลอดเพราะรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำ คือ ทำด้วยหัวใจ ในช่วง cd 19 ทั้งคู่ก็ได้นำเงินส่วนตัว 10 ล้านบาท มามอบให้ประชาชน ไทด์ เผยว่า

เป็นความคิดดีๆของคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ซึ่งเข้าเนี่ยเห็นสภาพหลังจาก cd เกิดได้สัก 1 สัปดาห์ ที่บ้านเราจะต้องล็อกดาวน์ 1 สัปดาห์ ไปตามสี่แยก เขาจะเห็นเด็ก คนแก่ คนหนุ่ม มาเคาะกระจกขอเงินกินข้าว แบบขอเลยไม่มีตังค์ เพราะว่าทำงานไม่ได้ บิณฑ์เขาก็เกิดมีความคิดว่า เงินที่เขาได้มาจากการไปช่วยน้ำท่วมที่ จ.อุบลราชธานี ก็มีสินค้าหลายตัวที่ให้เขาเป็นพรีเซนเตอร์ได้เงินประมาณ 10 กว่าล้าน ก็เลยมีความคิดว่า ไอ้เงิน 10 กว่าล้านเนี่ย มันไม่ใช่ของเขา มันเป็นเหมือนกับว่าลาภลอยที่เราไปทำเป็นฮีโร่ของพี่น้องประชาชนอีสาน เขาก็เลยตัดสินใจว่า เขาจะขอเดินแจกเงินให้กับชุมชนทุกชุมชนในกรุงเทพมหานครด้วยเงิน 10 ล้านบาทนี่

ทำไมไม่รับเงินบริจาค?

ไม่รับ เพราะเงินบริจาคน้ำท่วมมันเกิดวิกฤติที่อุบลราชธานี ที่เขาเปิดรับบริจาค ตอนแรกเขาก็กะว่าได้สักล้านสองล้าน แต่พรึ่บเดียวซัดไป 422 ล้านบาท ทีนี่วิกฤตินี้ต้องช่วยกันทั่วทุกคน เลยตัดสินใจเอาเงิน 10 ล้านแจกทุกวันๆให้ครอบครัวละ 500 คนไหนที่ครอบครัวมี 4 คนให้พันนึง คนไหนอยู่ 2 คนให้ 500 เพิ่มขึ้นตลอด จนผลิตภัณฑ์ที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์เขาเห็นว่าเอาแจกจริง เขาก็เลยบริจาคมาให้รวมของเขาด้วย 10 ล้าน เป็น 16 ล้าน วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายที่เราต้องแจก 16 ล้านนี้ให้หมด

สิ่งที่ทำเพื่ออะไร?

สิ่งที่มีความสุขที่สุด คือทำให้คนอื่นมีความสุข นี่คือเรา 2 คนจะพูดกันเสมอว่า ไม่เหนื่อย แต่จริงๆแล้วมันเหนื่อยมาก ที่ไม่เหนื่อยก็เพราะว่า เห็นสีหน้าชาวบ้านมานั่งรอหน้าประตูยกมือไหว้ คนเฒ่าคนแก่เห็นเรา น้ำตานี่ไหลออกมา เข้ามากอด ได้เห็นความรู้สึกของแต่ละครอบครัว เอาเงิน 500 ไปให้เขาเนี่ย สวรรค์เลย เหมือนเราช่วยเขาได้ประมาณ 1 สัปดาห์ คือเราเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูมาก็ประมาณ 35 ปีแล้ว

อาสาสมัครมีเงินตอบแทนให้ไหม?

คำว่าอาสาสมัครเนี่ย เป็นการทำงานด้วยอาสาที่ต้องการจะทำให้สังคม กินเอง เติมน้ำมันเอง ถ้าเกิดเป็นรถอาสาสมัครเขาก็ทำโดยของเขาเอง มูลนิธิไม่ได้สนับสนุนอะไรให้ แต่ถ้าเป็นรถของ น.เขต น.พยาบาล ซึ่งเป็นพนักงานของมูลนิธิก็คือเขาจะมีเงินเดือนให้แต่น้อยมาก เพราะว่ามูลนิธิทุกมูลนิธิในประเทศไทยเป็นของเอกชน ต้องอยู่ด้วยตัวเอง อยู่ด้วยเงินบริจาคของประชาชนเท่านั้น

มองยังไงกับคนที่ไม่ทำกินแต่นั่งรอคนมาให้?

มีเยอะนะ ที่เอาคนมานั่งหน้าห้อง เกณฑ์กันมา 14-15 คนมาจากไหนไม่รู้ เปิดไปห้องโล่งและรกมาก ผมถามตรงๆได้เท่าไหร่ เขาได้ 200 เอง แต่คนนั้นได้ 3,000-3,500 บางครั้งเราก็รู้สึกท้อใจ ทำไมเขาคิดไม่ได้ เราไม่ได้เสียดายของนะ แต่ขออย่ามาหลอ กกัน ในภาวะแบบนี้แล้วคนอื่นที่เขาเดือดร้อนเขารออยู่เยอะแยะมากมาย