ศรีสุวรรณ ร้องเอาผิด นักเรียนทำคลิปล้อเลียนสถาบัน

News

จากกรณีที่มีผู้แสดงความไม่พอใจกรณีที่มีนักเรียน 5 คน เผยแพร่วิดีโอคลิปลงใน ติ๊กต็อก (TikTok) ล้อเลียนเสียดสีสถาบันนั้น ล่าสุด วันนี้ (29 ต.ค.63) งานประชาสัมพันธ์โรงเรียนพรตพิทยพยัต ได้เผยแพร่ประกาศของโรงเรียนที่ลงนามโดย นายประทีป ไชยเมือง ผู้อำนวยการโรงเรียน ระบุว่า เนื่องด้วยนักเรียนโรงเรียนพรตพิทยพยัต ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอลงโซเชียล ซึ่งเป็นคลิปที่กระทำไม่เหมาะสม


ผอ.โรงเรียน ออกมาชี้แจงแล้วว่า ตักเตือนพร้อมเรียกผปค.แล้ว

ทางโรงเรียนได้รับทราบปัญหาและดำเนินการเชิญผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนรับทราบปัญหาและร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหา ซึ่งทางด้านผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนได้ยอมรับผิดและสำนึกในการกระทำครั้งนี้แล้ว ทั้งนี้ ทางโรงเรียนพรตพิทยพยัตต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความเสียหายและจะกำชับให้นักเรียนประพฤติปฏิบัติให้อยู่ในระเบียบวินัยของโรงเรียนต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้โรงเรียนจะออกประกาศขออภัยดังกล่าวแต่ยังคงมีโซเชียลเข้าไปตำหนิ และถามหาบทลงโทษ

ทางด้าน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีกลุ่มนักเรียนของโรงเรียนพรตพิทยพยัต เขตลาดกระบัง กทม. ได้ร่วมกันแสดงพฤติกรรมล้อเลียนเสียดสีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย โดยถ่ายเป็นคลิปวีดีโอแล้วนำไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันของสังคมไทยนั้น


ศรีสุวรรณไม่ยอม รักชาติ ตัดขาดเด็กไปเลย อย่าให้มีอนาคตอีก

แต่พฤติการณ์และการกระทำของกลุ่มนักเรียนดังกล่าว เป็นความผิดที่ร้ายแรง ชี้ได้ชัดเจนว่าประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน ตามกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา หรือกรณีทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของสถานศึกษา หรือฝ่าฝืนระเบียบของสถานศึกษา ซึ่งจากการประกาศดังกล่าว มิได้บ่งชี้ว่าทางผู้อำนวยการโรงเรียนพรตพิทยพยัตได้สั่งลงโทษนักเรียนกลุ่มดังกล่าว ตามกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2562 ประกอบระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษา พ.ศ.2548อย่างไร


พฤติกรรมดังกล่าว ถูกลบแล้ว

ซึ่งพฤติการณ์และการกระทำของนักเรียนกลุ่มดังกล่าวเข้าข่ายความผิดในข้อ 1(6) ของกฎกระทรวงอังกล่าวที่กำหนดห้ามกระทำการใด ๆ อันน่าจะ ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือรวมกลุ่มหรือมั่วสุม เพื่อกระทำการดังกล่าว ซึ่งโทษที่เหมาะสมจะต้องสั่ง ทำทัณฑ์บน และต้องสั่งให้ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามระเบียบของโรงเรียนเท่านั้น เพื่อมิให้กลุ่มนักเรียนดังกล่าวกล้ากระทำความผิดหรือเป็นแบบอย่างของพฤติกรรมการเลียนแบบที่ไม่เหมาะสมต่อไป