กลายเป็นเรื่องที่สร้างความตกใจให้กับใครหลายๆ คน จากกรณีการจากไปกะทันหัน ของนายสมภาร สุรัญกุล หรือ เสี่ยเต้ย อายุ 40 ปี อดีตสามีของ นางวรรณลี ปัญญาใส หรือ เจ๊อ๋อ อายุ 48 ปี ที่เคยมีข่าวโด่งดังถูกลอตเตอรี่ 90 ล้าน และยังจ้าง 50 ล้าน ให้เสี่ยเต้ยแยกทางกับตน
ภาพจาก ทุบโต๊ะข่าว
ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวของเสี่ยเต้ยมีความกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดงาน เนื่องจากไม่สามารถกดเงินออกจากบัญชีทั้ง 2 บัญชีของเสี่ยเต้ยได้ บัญชีแรกมีเงินประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนอีกบัญชีหนึ่งมีเงินหลักแสนบาท คล้ายบัญชีถูกอายัด ทำให้ทางครอบครัวต้องช่วยกันหาเงินมาจัดงานก่อนจะทำพิธีเผาในวันที่ 25 พ.ย. 63 ที่วัดบ้านคำบอน ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี
วันที่ 21 พ.ย. 63 ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของเสี่ยเต้ย เลขที่ 111 ม.4 บ้านคำบอน ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี พบพวงหรีดของเจ๊อ๋อ ที่ส่งมาไว้อาลัยให้กับอดีตคนรัก ติดข้อความว่า “อาลัยยิ่ง จากเจ๊อ๋อ 90 ล้าน พร้อมครอบครัว และคณะ” ส่วนแม่ของเจ๊อ๋อได้ส่งอาหารมาช่วยงานในคืนนี้ด้วย
นายสนอง สุรัญกุล อายุ 50 ปี พี่ชายของเสี่ยเต้ย น้ำตาคลอ เปิดเผยว่า น้องชายตนมีความเครียดสะสมมาตั้งแต่เลิกกับเจ๊อ๋อ เนื่องจากน้องชายรักเจ๊อ๋อ และบุตรสาวบุญธรรมวัย 4 ขวบมาก ซึ่งบุตรอยู่กับเจ๊อ๋อ น้องชายมักจะพูดเป็นลาง คล้ายกับว่ารู้ตัวว่าต้องจากไปว่า “หากผมเป็นอะไรไป ขอให้พี่ไปที่ธนาคารในตัวเมือง และเปิดเซฟดูพินัยกรรม ไม่ต้องห่วง ผมทำไว้หมดแล้ว จะไม่ปล่อยให้ครอบครัวลำบาก”
ซึ่งตนก็ไม่เคยถามว่าพินัยกรรมมีอะไรบ้าง และแบ่งให้ใครบ้าง เพราะตนไม่ต้องการให้น้องชายคิดมาก โดยเท่าที่ตนทราบว่าเงินขณะนี้เหลืออยู่ 2 บัญชี บัญชีแรก 10 ล้านบาท บัญชีที่ 2 มีเงินหลักแสน
ทั้งนี้ในประเด็นเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ตนไม่สามารถนำบัตรเอทีเอ็มของน้องชายไปกดเงินออกมาได้นั้น เท่าที่ตนทราบคาดว่าน่าจะเป็นหลักการของธนาคารที่ไม่อนุญาตให้กดเงิน หลังจากที่เจ้าของบัตรเ สียชีวิต ตนคงต้องรอให้งานผ่านพ้นไปก่อน จึงค่อยเข้าไปคุยกับธนาคารเกี่ยวกับพินัยกรรม การจัดงานให้กับน้องชายในครั้งนี้ ตนขอขอบคุณเพื่อน ๆ ของน้องชายที่ช่วยระดมเงินคนละไม้คนละมือร่วมกับครอบครัว ใครมีมากช่วยมาก ใครมีน้อยช่วยน้อย จนทำให้ครอบครัวสามารถจัดงานนี้ให้กับเสี่ยเต้ยได้
ส่วนคำถามว่าเงิน 50 ล้านบาทที่น้องชายได้มานั้น นำไปใช้อะไรบ้าง ตนทราบเพียงว่าทำศัลยกรรม 3 แสนบาท ใช้ต่อเติมบ้านให้ครอบครัว ดื่มกินเที่ยว ทั้งนี้ ตนเสียใจและสงสารน้องชายที่ต้องจากไปด้วยสาเหตุติดเ ชื้อในกระแสเ ลือด คาดว่าน่าจะติดเ ชื้อมาจากในคืนวันที่ 17 พ.ย. น้องชายตนได้ใช้ไม้แหลมจิ้มตาปลาที่ฝ่าเท้า จากนั้นในวันที่ 18 พ.ย. ก็ได้ไปวิ่งและมาทาหม่อง จนเท้าบว มติดเ ชื้อ
ขณะนี้ครอบครัวขาดหายบางสิ่งไป น้องชายคือสีสันของครอบครัวและชาวบ้าน เป็นคนทำให้ครอบครัวและชาวบ้านมีความสุข สุดท้ายกับประเด็นสังคมระหว่างน้องชายตนกับเจ๊อ๋อ ต้องการจะชี้แจงว่า ตนและครอบครัวยังยินดีต้อนรับเจ๊อ๋อและครอบครัวอยู่เสมอ การเลิกรากันเป็นปัญหาของคนสองคน แต่ครอบครัวยังคงผูกพันกันเหมือนเดิม
นายสนอง โนนสูง อายุ 56 ปี เจ้าของร้านขายของชำใกล้บ้านเสี่ยเต้ย ซึ่งเป็นร้านประจำที่เสี่ยเต้ยจะมาเกือบทุกวัน เล่าว่า เสี่ยเต้ยเป็นคนนิสัยดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อกับชาวบ้านมาตั้งแต่ก่อนที่จะได้เงินหรือถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล หากเสี่ยเต้ยมาร้านแล้วมีชาวบ้านที่เข้ามาซื้อขอพอดี เสี่ยเต้ยจะประกาศว่า “ใครต้องการอะไรให้หยิบไป ผมจะจ่ายให้เอง” ซึ่งทุกครั้งที่ซื้อของ เสี่ยเต้ยจะจ่ายเป็นเงินสดทุกครั้ง ไม่เคยค้างเงิน เสี่ยเต้ยจะมาซื้อของร้านตนเป็นประจำ ทั้งเครื่องดื่มและขนม ซื้อหนึ่งครั้งไม่ต่ำกว่า 700-800 บาท
นอกจากนี้ เสี่ยเต้ยจะมาร้านของตนทุกวันพระ เพื่อสั่งดอกไม้ธูปเทียน น้ำดื่ม และขนม ชุดละประมาณ 800 บาท เพื่อนำไปไหว้พ่อแม่ที่เ สียชีวิตไปแล้ว อีกทั้งหากมีงานหมู่บ้านทั้งงานมงคลหรืองานศ พ เสี่ยเต้ยก็จะมาสั่งของร้านของตนให้นำไปช่วยงาน ครั้งละ 4,000-5,000 บาท
ทั้งนี้ ตนได้พบกับเสี่ยเต้ยวันสุดท้ายในวันที่ 15 พ.ย. เวลาประมาณ 08.30 น. เสี่ยเต้ยได้มาซื้อดอกไม้ธูปเทียนและขนม รวมราคาประมาณ 800 กว่าบาท ซึ่งตนก็ได้นั่งคุยกับเสี่ยเต้ย สีหน้าของเสี่ยเต้ยปกติ ไม่มีลางบอกเหตุว่าจะเ สียชีวิต หลังจากที่เสี่ยเต้ยเลิกรากับเจ๊อ๋อ เสี่ยเต้ยก็มักจะมาบ่นให้ตนฟังว่าเครียด กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ ตนก็รู้สึกสาร เสียใจและตกใจมากเมื่อทราบว่าเสี่ยเต้ยเ สียชีวิต “คนดี ๆ ทำไมต ายไว ทำไมคนชั่ว ๆ ไม่ต าย” ส่วนตัวตนคิดว่าเสี่ยเต้ยเ สียขีวิตด้วยโ รค ไม่ใช่ดวงหมด เพราะได้ลาภใหญ่ตามที่ชาวบ้านคิดกัน
ขอบคุณที่มาจาก รายการ ทุบโต๊ะข่าว