จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งในพื้นที่ จ.อ่างทอง ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะชายวัยรุ่นใส่กางกงขาสั้น สวมเสื้อคลุมและใส่หมวกกันน็อก เดินเข้ามาบริเวณด้านหน้าร้านขายของ ริมถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ หมู่ที่ 6 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ก่อนที่จะยกแผงไข่ไก่ที่วางขายไว้ที่ด้านหน้าร้าน พร้อมทั้งน้ำมันเบนซิน 1 ขวด และเดินออกไปอย่างใจเย็น
ป้าวอน อย่ามาอีก หมดครัวแล้ว
โดยเหตุการณดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 พ.ย.63 ที่ผ่านมา โดยหลังจากทราบเรื่องลูกชายของคุณยายและคุณยาย ได้นำภาพดังกล่าวโพสต์เตือนภัยแก่ประชาชนในพื้นที่ เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ที่เกิดเหตุเป็นร้านค้าขนาดเล็กริมถนน ซึ่งมีนางวิไล บุญเจริญ อายุ 80 ปี เป็นเจ้าของร้าน เล่าว่า ที่ร้านจะนำไข่ไก่มาวางขายที่บริเวณด้านหน้าร้าน พร้อมทั้งน้ำมันแบ่งขวดขาย
ช่วงเย็น ขณะที่ตนอยู่ภายในร้าน และเริ่มทยอยเก็บของเข้าร้าน ก็พบว่าไข่ไก่ที่เหลืออยู่หน้าร้าน 1 แผง พร้อมด้วยน้ำมันเบนซิน 1 ขวดหายไป จึงถามลูกชายว่าเก็บไปหรือไม่ ก็ปรากฏว่าไม่มีใครเก็บไป จึงให้ลูกชายตรวจดูกล้องวงจรปิด ก็พบว่าช่วงระหว่างที่ตนเก็บของเข้าไปด้านหลังบ้าน มีชายคนดังกล่าวเดินเข้ามายกแผงไข่ไก่ พร้อมทั้งน้ำมัน 1 ขวดออกไป จึงอยากจะบอกขโมยว่า “ขโมยจ๋า สงสารคนแก่เถอะ”
เขียนป้ายขอความเห็นใจ
โดยนางศรีสุดา ปารมีธรรม อายุ 61 ปี เล่าให้ฟังว่า หลังเห็นคลิปกล้องวงจรปิดจากข่าว จึงจำได้ว่าเป็นคนร้ารายคนเดียวกับที่เคยก่อเหตุขโมยของที่อยู่ในร้านทั้งไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ ผัก น้ำมันพืช ไม่เว้นแม้กระทั่งกระดาษชำระ และของต่าง ๆ ที่ซื้อมาเตรียมไว้ขายก็ไม่ได้ขายเลย จนแทบจะหมดตัว ต้องไปซื้อเชื่อของมาลงทุนใหม่ ซึ่งหายแทบทุกวันจนเครียด สุดท้ายต้องไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติดไว้ ช่วงแรก ๆ ที่หายก็ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ จนต้องช่วยเหลือตัวเอง
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณด้านหน้าบ้านของ น.ส.สุพัตรา มีศิริ หรือ น้องก้อย อายุ 41 ปี ใน อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จับภาพขณะที่ชายอายุประมาณ 35-40 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณรั้วบ้าน ก่อนที่จะฉวยโอกาสเปิดประตูเข้ามาภายในบ้าน และเข้าไปด้านหลัง จนกระทั่งพบกับพี่สะใภ้ที่อยู่ภายในบ้าน
คนที่ลักของ
โดยชายคนดังกล่าวอ้างว่า จะเข้ามาขอบริจาคเงินแข่งขันกีฬา โดยมีกระดาษ A4 มา 1 แผ่น และพยายามเดินประชิดตัวพี่สะใภ้ของตนตลอดเวลา และพยายามที่หยิบวัตถุบางอย่างที่อยู่ที่เอวออกมา จนกระทั่งพี่สะใภ้ผิดสังเกต จึงรีบเดินไปหาพี่ชายที่ทำงานอยู่ด้านหลังบ้าน เมื่อชายคนดังกล่าวเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเดินออกไปหน้าบ้าน ก่อนที่จะขึ้นซ้อนรถจักรยานยนต์และขี่หลบหนีไป โดยหลังจากเกิดเหตุการณดังกล่าว ตนได้นำภาพเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าโมก ไว้เป็นหลักฐานแล้ว